ข้าวฟ่างไม้กวาด


ข้าวฟ่างไม้กวาด 
 
           ข้าวฟ่างไม้กวาด เป็นพืชชนิดเดียวกับข้างฟ่างทั่ว ๆ ไป แต่มีลักษณะรวงเมล็ดแตกต่างกัน คือ รวงข้าวฟ่าง มีแขนงเรียกว่าแส้ แตกออกจากจุดเดียวกับทีฐานรวง แส้มีความเหนียวสปริงตัวได้ดี ไม่เปราะหรือหักง่าย เมล็ดมีขนาดค่อนข้างเล็ก มีเปลือกหุ้มสีดำหรือสีน้ำตาลเป็นมันวาว หุ้มเมล็ดไว้เกือบมิดมีก้านรวงเหนียว จึงใช้ทำเป็นไม้กวาดได้ดี

        การใช้ประโยชน์ ส่วนใหญ่เป็นการเก็บเกี่ยวรวง ไปใช้ในอุตสาหกรรมทำไม้กวาด แปรงทาสีพู่กันและแปรงปัดฝุ่น รวงที่นวดเมล็ดออกแล้วนำไปย้อมสีทำสิ่งประดับบ้าน ส่วนเมล็ดลำต้นและใบใช้เป็นอาหารสัตว์ได้



ลักษณะเด่น

        1. ทนทานต่อสภาพความแห้งแล้ง เจริญเติบโตได้ดีในดินแทบทุกชนิด ยกเว้นพื้นที่ที่เป็นทรายจัดหรือ ที่ลุ่มมีน้ำขัง

        2. อายุการเก็บเกี่ยวสั้น ใช้เวลาตั้งแต่ปลูกจนถึงตัดรวง เพื่อทำไม้กวาดเพียง 65 วันเท่านั้น จึงสามารถปลูกเป็นพืชรอง หลังจากปลูกเป็นพืชหลักอื่นๆ แล้ว

        3. ลำต้นใช้เลี้ยงสัตว์ หลังจากตัดรวงแล้ว ลำต้นข้างฟ่างไม้กวาดยังสดอยู่ สามารถตัดไปเป็นอาหารสัตว์ เช่น วัว ควาย ได้อีก

        4. ไว้ตอได้ ถ้ามีฝนพอเพียงภายหลังตัดรวงและต้นแล้ว สามารถไว้ตอข้าวฟ่างไม่กวาด ให้เจริญงอกงาม เพื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตได้อีกครั้งหนึ่ง 

พันธุ์
        ปัจจุบันเป็นพืชที่มีเมล็ดสีน้ำตาลดำ โดยบริษัทเอกชนนำมาจากประเทศไต้หวัน แล้วขายเมล็ดพันธุ์ให้แก่เกษตรกรปลูก โดยมีสัญญาจะรับซื้อรวงคืน ราคาจึงขึ้นอยู่กับบริษัทเป็นผู้กำหนด ซึ่งที่ศูนย์วิจัยข้าวโพดข้าวฟ่างแห่งชาติ แนะนำคือ พันธุ์เคยูบี 1
        พันธุ์เคยูบี 1 ที่แนะนำมีลักษณะเด่นคือ ให้ผลผลิตรวงสูง ถึงไร่ละ 910กิโลกรัม อายุถึงวันออกดอก 55 วัน อายุถึงวันเก็บเกี่ยว 64 วัน ความสูงของลำต้น180 เซนติเมตร ต้นหักล้ม 3.5 เปอร์เซนต์ ผลผลิตเมล็ด ไร่ละ 202 กิโลกรัม ความยาวแส้ 37.5 เซนติเมตร จำนวน 27 แส้ต่อรวง เส้นรอบวงก้านช่อ 2.7เซนติเมตร เป็นข้างฟ่างไม้กวาดพันธุ์ดีที่เกษตรกร จะได้ใช้เป็นพันธุ์ปลูกต่อไป 
 
การปลูก
        ฤดูปลูก -  สามารถปลูกได้ตลอดปี แต่การปลูกจะอาศัยน้ำฝนมากกว่าอาศัยน้ำชลประทาน ฤดูปลูกมี 2 ช่วง คือ ช่วงต้นฤดูฝนเริ่มปลูกเดือนมีนาคม เก็บเกี่ยวรวงจำหน่ายในเดือนพฤษภาคม ช่วงปลายฤดูฝนเริ่มปลูกเดือนสิงหาคม - กันยายน สามารถเก็บเกี่ยว รวงจำหน่ายในเดือนตุลาคม - พฤศจิกายน
        การเตรียมดิน - ก่อนปลูกข้าวฟ่างไม้กวาด ควรไถพรวนดินให้ละเอียดพอสมควร เนื่องจากเมล็ดข้าวฟ่างไม้กวาดมีขนาดเล็ก และต้นกล้าค่อนข้างอ่อนแอต่อการเบียดเบียนของวัชพืช หากเตรียมดินไม่ดี ข้าวฟ่างไม้กวาดจะเจริญเติบโตช้ารวงข้าวฟ่างไม่สมบูรณ์ ผลผลิตต่ำ และคุณภาพไม่ดีเท่าที่ควร
        วิธีปลูก -  การปลูกข้าวฟ่างไม้กวาดทำได้เช่นเดียวกับข้าวฟ่างทั่วไป คือ ปลูกแบบหยอดเป็นหลุม ให้ระยะห่างระหว่างหลุม 10 เซนติเมตร และระยะห่างระหว่างแถว 50 เซนติเมตร ปลูกหลุมละ 2 ต้น จะใช้เมล็ดพันธุ์ประมาณไร่ละ 2.0 -2.5 กิโลกรัม ปัจจุบันมีการปลูก โดยใช้เครื่องหยอดเมล็ดติดท้ายรถแทรกเตอร์ซึ่งประหยัดเวลา และแรงงานเหมาะสำหรับพื้นที่ปลูกขนาดใหญ่ๆ การปลูกด้วยเครื่องหยอดควรปลูก หลุมละ 1 ต้น ใช้ระยะห่างระหว่างต้น 5 เซนติเมตร และระหว่างแถว 50 เซนติเมตร ก่อนปลูกควรใส่ปุ๋ยรองพื้นสูตร 15 - 15 -15 อัตราไร่ละ 30กิโลกรัม 

การปฏิบัติดูแลรักษา
           ควรเอาใจใส่ตั้งแต่ต้นข้าวฟ่างเริ่มงอก ซึ่งจะเป็น ภายหลังที่เมล็ดข้าวฟ่างไม้กวาดได้รับน้ำ 3 - 5 วัน ถ้าต้นข้าวฟ่างงอกหนาแน่นมาก ควรถอนแยกออกบ้าง เพื่อให้ต้นที่เหลือ เจริญเติบโตได้ดี ให้รวงขนาดใหญ่ แส้ยาว และมีจำนวนแส้ต่อรวงมาก
        การกำจัดวัชพืชควรกระทำเมื่อข้าวฟ่างอายุ 21 - 28 วัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ข้าวฟ่างไม้กวาด กำลังสร้างตาดอก ซึ่งจะมีผลต่อคุณภาพของรวงข้าวฟ่างโดยตรง ในระยะนี้ต้นข้าวฟ่างมีใบซีดเหลือง ลำต้นเล็กแสดงอาการขาดปุ๋ยไนโตรเจน ควรใส่ปุ๋ยสูตร 21 - 0 - 0 อัตราไร่ละ 30 กิโลกรัม ถ้ามีวัชพืชรบกวนมาก อาจใช้สารกำจัดวัชพืช เช่น อาทราซีน อัตรา 400 กรัมต่อไร่ พ่นหลังหยอดเมล็ด

โรคและแมลงศัตรูพืช
        แมลงและศัตรูพืชยังมีไม่มาก เนื่องจากปลูกกันน้อยและมักจะปลูก สลับกับพืชอื่น โรคที่สำคัญได้แก่ โรคใบไหม้ จะพบโรคนี้เมื่อต้นข้าวฟ่างไม้กวาดติดเมล็ดแล้ว และเริ่มแก่จัด แต่ไม่มีผลกระทบต่อผลผลิตข้าวฟ่างไม้กวาด
        ส่วนแมลงศัตรูที่สำคัญก็ยังไม่มีมาก แต่อาจจะพบบ้างในแหล่งที่เคยปลูก ข้าวฟ่างมาก่อน และพบในแปลงข้าวฟ่าไม้กวาดที่ปลูกล่ากว่าแปลงอื่นๆ ในแหล่ง ดังกล่าวต้นข้าวฟ่างไม้กวาดจะถูกหนอนแมลงวันเจาะทำลาย ทำให้เกิดอาการยอดแห้ง ในระยะต้นกล้า จึงควรหลีกเลี่ยงการปลูกข้าวฟ่างในแหล่งดังกล่าว ถ้าจะเป็นต้องปลูก ล่ากว่าแปลงอื่นๆ ควรจะหยอดเมล็ดให้มากกว่าปกติ เพื่อให้มีจำนวนต้นที่เหลือรอดจากการทำลายมากพอที่จะให้ผลผลิตได้ หรืออาจใช้สารฆ่าแมลง คาร์โบซัลแฟน 1-2 ครั้ง ในระยะต้นกล้าหรือระยะข้าวฟ่างมี 3-5 ใบ แต่การใช้สารฆ่าแมลงไม่คุ้มกับการลงทุน

ลักษณะเด่น
        ข้าวฟ่างไม้กวาดจะเริ่มเก็บเกี่ยวได้เมื่อมีอายุ 65 วัน หรือประมาณ 15 วัน หลังออกดอก ระยะนี้เปลือกหุ้มเมล็ดจะเริ่มเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีน้ำตาลอ่อนๆ ส่วนก้านรวงและแส้ยังมีสีเขียวอยู่ เมื่อนำไปทำไม้กวาดจะได้ไม้กวาดสีเขียวธรรมชาติ แส้เหนียวและยืดหยุ่นได้ดี ถ้าเก็บเกี่ยวช้าแส้จะแห้งเปราะเป็นสีน้ำตาล ไม่สวยงามเท่าที่ควร ถ้านำไปทำไม้กวาดต้องย้อมสีเพื่อให้สวยงามขึ้น ถ้าจะเก็บเกี่ยวเมล็ดไว้ทำพันธุ์ ต้องปล่อยให้เมล็ดแก่จัด หรือเก็บเกี่ยวเมื่ออายุ 100 วัน
        วิธีเก็บเกี่ยว ใช้เคี่ยวหรือมีดตัดก้านให้ยาวประมาณ 50 เซนติเมตร แล้วมัดเป็นกำนำไปเข้าเครื่องตัดก้านยาว 30 เซนติเมตร เพื่อจำหน่ายให้แก่โรงงาน
        ผลผลิตรวงข้าวฟ่างไม่กวาดที่เกษตรกรเพาะปลูก อยู่ระหว่งไร่ละ 500-1000 กิโลกรัม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพันธุ์ที่ใช้ปลูกและการปฏิบัติดูแลรักษาของเกษตรกร
การซื้อขาย
        โรงงานรับซื้อรวงข้าวฟ่างจากเกษตรกรในราคากิโลกรัมละ 2.00-2.50 บาท ดังนั้นถ้าเกษตรกรปลูกข้าวฟ่างไม้กวาดไร่ละ 900 กิโลกรัม ก็จะมีรายได้ไร่ละ 1,800-2,250 บาท ปัจจุบันมีโรงงานรับซื้อรวงข้าวฟ่างไม้กวาด เพื่อผลิตไม้กวาด หรือส่งรวงข้าวฟ่างไม้กวาด ไปจะหน่ายต่างประเทศหลายแหล่ง ทั้งที่จังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ อุทัยธานี และนนทบุรี 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น