มะละกอฮอลแลนด์ (Holland Papaya)
| |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
มะละกอ จัดเป็นไม้ผลที่เกษตรกรนิยมปลูกไม่น้อย ทั้งนี้เพราะเป็นพืชที่ให้ผลผลิตเร็ว ผู้ปลูกสามารถปลูกแซม ในพืชหลักก่อนให้ผลผลิต หรือปลูกเป็นพืชหลักเพื่อจำหน่าย ผลผลิตโดยตรง ในแง่ของผู้บริโภคแล้ว มะละกอเป็นผลไม้ ที่ได้รับความนิยมรับประทานกัน เพราะรับประทานแล้ว ไม่อ้วน แถมยังช่วยระบบขับถ่ายได้ดี
ลักษณะทั่วไปของมะละฮอลแลนด์สายพันธุ์มะละกอในบ้านเรา มีให้เลือกปลูกพอสมควร ที่โดดเด่นมาอย่างต่อเนื่อง เห็นจะได้แก่มะละกอแขกดำ ซึ่งแบ่งเป็นสายๆ ไป เช่น แขกดำท่าพระ แขกดำศรีสะเกษ หากเป็นเกษตรกรต้องยกให้แขกดำของ คุณปรุง ป้อมเกิด ที่อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม สำหรับสายพันธุ์ใหม่ มาแรง ได้รับความนิยมอย่างมาก ได้แก่ มะละกอฮอลแลนด์ หรือชื่ออื่น คือ ปลักไม้ลาย และเรดมาลาดอล์ มะละกอฮอลแลนด์ ลำต้นใหญ่สีเขียว ใบมี 11 แฉกใหญ่ กลางใบมีกระโดงใบ 1 ใบ ก้านใบมีสีเขียวตั้งขึ้น ดอกออก เป็นช่อ ติดผลดก รูปทรงกระบอกคล้ายลูกฟักอ่อน อายุ เก็บเกี่ยว 8 เดือน น้ำหนักผลประมาณ 800-2,000 กรัม ต่อผล เนื้อสีแดงอมส้ม ไม่เละ เนื้อหนา 2.5-3.0 เซนติเมตร ความหวานวัดได้ 11-13 องศาบริกซ์ ผลผลิตต่อต้น 60-80 กิโลกรัม จุดเด่นที่มองออกง่ายมาก ว่าผลมะละกอฮอลแลนด์เป็นอย่างไรนั้น ที่ปลายผลจะป้านคล้ายผลฟักอ่อน ดอกและเพศของมะละกอ หลักการผลิตต้นพันธุ์มะละกอฮอลแลนด์นั้น คล้ายกับการผลิตสายพันธุ์อื่นคือ ต้องการให้ได้ต้นกระเทย เพราะคุณภาพดี มะละกอมี 3 เพศด้วยกัน คือ มะละกอเพศผู้ ได้จากต้นที่มีดอกตัวผู้ ช่อของดอกยาวอย่างชัดเจน พบไม่บ่อยนัก หากพบส่วนใหญ่เขาตัดทิ้ง อีกเพศหนึ่งคือมะละกอตัวเมีย ลักษณะของดอกจะอ้วนป้อม ได้ผลอ้วนสั้น เนื้อไม่หนา เพศสุดท้ายคือ เพศกระเทย ดอกออกยาว ผลที่ได้จากเพศนี้ ผลจะยาว เนื้อหนา ผู้ปลูกมะละกอต้องการแบบนี้ รวมทั้งเก็บไว้ทำเมล็ดพันธุ์ต่อไป หลังปลูกมะละกอได้ 3 เดือน มะละกอจะออกดอก จะมีทั้งดอกตัวเมียและกระเทย ก่อนดอกบาน ผู้ปลูกจะต้องห่อดอกกระเทยด้วยมุ้งหรือผ้าขาวบางๆ เพื่อให้มีการผสมเกสรตัวเอง และไม่ผสมข้ามพันธุ์กับต้นอื่นๆ เมื่อผลมะละกอสุกแก่ก็นำเมล็ดไปเพาะให้ได้ต้นใหม่ ซึ่งจะได้ผลกระเทย 70-80 เปอร์เซ็นต์ วิธีการปลูกมะละกอฮอลแลนด์ สามารถปลูกได้ทุกสภาพพื้นที่ ยกเว้นพื้นที่น้ำขัง ดินที่ เหมาะสมมีความเป็นกรดเป็นด่าง 5.5-5.0 ระยะปลูก 2.5x3 เมตร ไร่หนึ่งปลูกได้ 224 ต้น หากปลูกแล้ว ให้น้ำสม่ำเสมอ มะละกอจะให้ผลผลิตที่ดีมาก ปุ๋ยที่ใส่ให้ เริ่มต้นที่ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก สำหรับปุ๋ยวิทยาศาสตร์ใช้ สูตร 15-15-15 ระยะที่ติดผลอ่อน ก่อนการเก็บเกี่ยวใส่ สูตร 13-13-21 ใส่รอบๆ ต้น จำนวน 1 ช้อนโต๊ะ ต่อต้น เมื่อปลูกได้ 7-8 เดือน มะละกอฮอลแลนด์จะสุกแก่ เริ่มเก็บได้ ปริมาณผลผลิต หากดูแลปานกลาง จะได้ผลผลิตราว 5-8 ตัน ต่อไร่ วิธีการเก็บเกี่ยวนั้น เลือกเก็บเฉพาะผลที่สุก 5-10 เปอร์เซ็นต์ คือผิวมีแต้มสีเหลืองเล็กน้อย
เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2551 เวลา 07.30-18.00 น.ที่ผ่านมา พวกเราชุมชนเกษตรพอเพียง (ออนไลน์) มีโอกาสได้เดินทางไปท่องเที่ยวเชิงเกษตร ณ จังหวัดปราจีนบุรี เป็นครั้งที่ 2 พร้อมทั้งได้เ้ข้าชมสวนมะละกอ ของคุณอุดร ซึ่งปลูกมะละกอหลายสายพันธุ์ หนึ่งในนั้นคือ พันธุ์ฮอลแลนด์ จึงไ้ด้เก็บภาพสวยๆ มาฝากให้สมาชิกได้ชม พร้อมทั้งได้นำความรู้ที่เป็นหลักวิชาการมาไว้เป็นข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจ และสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาด้วยครับ
ภาพท่องเที่ยวเชิงเกษตร สวนมะละกอฮอลแลนด์ ณ จังหวัดปราจีนบุรี
ปริมาณน้ำตาลในผลไม้
ผลไม้ที่นำมาวิเคราะห์ชนิด และปริมาณน้ำตาลตามตารางข้างล่างนี้ มีความสุกพอเหมาะในการรับประทาน ดังนั้น ผลไม้ที่สุกมากขึ้นแป้งย่อมถูกเปลี่ยนเป็นน้ำตาลมากขึ้นด้วย
แหล่งที่มา : ดร. พิมพร วัชรางค์กุล กองโภชนาการ
|
การปลูกมะละกอฮอลแลนด์ (Holland Papaya)
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น