การปลูกมะเขือยักษ์


การปลูกมะเขือยักษ์

การเพาะปลูก การปลูกมะเขือยักษ์



มะเขือยักษ์ (Giant Eggplant) พันธุ์ใหม่ Sukhothai Pearl มะเขือผลใหญ๋พิเศษขนาดผลโดยเฉลี่ย 0.8-1.5 กิโลกรัม สามารถนำมาปรุงอาหารรับประทานได้เช่นเดียวกันกับมะเขือปกติ ปลูกเลี้ยงง่าย เจริญเติบโตรวดเร็ว 1 เดือน เริ่มติดผล

1. เริ่มจากการทำแปลงเพาะกล้าหรือถาดหลุมเพาะกล้าที่ใส่ดินผสม ซึ่งประกอบด้วย ดินละเอียด 3 ส่วน ปุ๋ยคอก 1 ส่วน ทรายหรือแกลบ 1 ส่วน รดน้ำและหยอดเมล็ดลงในแปลงหรือถาดหลุม หลุมละ 1 เมล็ด รดน้ำเช้า-เย็น

2. การเตรียมแปลงปลูก โดยไถดินให้ลึก 30-40 เซนติเมตร ตากดินไว้ 7-10 วัน

3. ย่อยดินให้ละเอียด หว่านปูนขาวในอัตรา 100-200 กิโลกรัม ต่อไร่ พร้อมใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกอัตรา 2,000 กิโลกรัม ต่อไร่ และปุ๋ยสูตร 15-15-15 อัตรา 30 กิโลกรัม ต่อไร่ คลุกเคล้าในแปลง

4. ยกแปลงสูงประมาณ 30 เซนติเมตร กว้าง 120 เซนติเมตร เสร็จรดน้ำและคลุมด้วยฟางหรือพลาสติค เพื่อรักษาความชื้น

5. ขุดหลุม กว้าง 50×50 เซนติเมตร ระยะปลูกระหว่างต้น 70-80 เซนติเมตร ระหว่างแถว 90-100 เซนติเมตร

6. นำกล้ามะเขือเปราะที่มีอายุ 15 วัน หรือมีใบจริง 3-4 ใบ มาปลูกตามหลุมที่เตรียมดินไว้และรดน้ำให้ชุ่ม และสม่ำเสมอหลังย้ายกล้าทุกเช้า-เย็น เมื่อกล้าตั้งตัวดีแล้วรดน้ำวันละครั้ง

7. หลังย้ายปลูก 7-10 วัน ใส่ปุ๋ยสูตร 46-0-0 อัตรา 30 กิโลกรัม ต่อไร่ เพื่อเร่งการเจริญเติบโต ใส่ปุ๋ยสูตร 13-13-21 หรือ 8-24-24 อัตรา 50-100 กิโลกรัม ต่อไร่ โดยทยอยแบ่งใส่ในช่วงออกดอกติดผล ทุกๆ 20 วัน แต่ถ้ากรณีใส่ปุ๋ยปลาร้าหรือน้ำหมักชีวภาพจากปลาทะเล ใช้ครั้งแรกเมื่อต้นมะเขืออายุ ประมาณ 1 เดือน ในอัตราส่วน 1 ลิตร ต่อน้ำ 100 ลิตร ใช้ฉีดพ่นทางดิน

หลังจากฉีดพ่นแล้วรอบแรก ทำการฉีดพ่นรอบสองอีก 15 วัน ฉีดพ่นอีกครั้งแต่ใช้ส่วนผสมอัตราส่วน 1 ลิตร ต่อน้ำหมักชีวภาพจากปลาทะเลผสมน้ำ 200 ลิตร ใช้ฉีดพ่นทางใบ แล้วก็รอจนกระทั่งเก็บผลผลิตได้

8. เก็บผลผลิตอย่างต่อเนื่องไปได้เรื่อยๆ และเมื่อเก็บผลหมดแล้วให้ตัดแต่งกิ่งเพื่อให้มะเขือออกยอดและใบใหม่ ก็จะมีดอกและลูกตามมาอีกเรื่อยๆ และเมื่อผลแก่สามารถนำเมล็ดไปขยายพันธุ์ต่อไปอีกได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น