วัดบวรนิเวศวิหาร
ตั้งอยู่ที่ถนนพระสุเมรุ เป็นวัดพระอารามหลวงที่มีบรรยากาศเงียบสงบ แม้ว่าจะตั้งอยู่ใกล้ย่านที่มีผู้คนพลุกพล่านอย่างบางลำภูและถนนข้าวสาร ภายในวัดมีสถาปัตยกรรมที่งดงามอย่างพระเจดีย์ใหญ่ ตั้งตระหง่านสีทองอร่ามอยู่ใจกลางวัด ใช้เป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ถัดจากพระเจดีย์ใหญ่คือวิหารเก๋ง ซึ่งสร้างโดยสถาปัตยกรรมรูปแบบจีน ใช้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปฉลองพระองค์ของเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศ นอกจากนั้นยังมีการวาดภาพจิตกรรมเรื่องสามก๊กบนผนังทั้งสี่ด้านอีกด้วย
ก่อนเดินทางกลับก็อย่าลืมเข้าไปกราบนมัสการพระพุทธชินสีห์ในพระอุโบสถ นอกจากจะได้ความเป็นสิริมงคงแล้ว ยังได้ชื่นชมความงดงามขององค์พระและงานจิตรกรรมฝาผนังภายในตัวโบสถ์อีกด้วย
วัดโพธิ์ หรือวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม
ตั้งอยู่ถัดจากวัดพระแก้วไม่ไกลนัก วัดโพธิ์เป็นวัดที่โดดเด่นในการสร้างเจดีย์อย่างมาก โดยถือว่าเป็นวัดที่มีพระเจดีย์มากที่สุดในประเทศไทย มีทั้งหมด 99 องค์ จนได้รับการขนานนามว่า "อาณาจักรแห่งเจดีย์" มีพระเจดีย์ที่สำคัญคือพระมหาเจดีย์สี่รัชกาล ประจำรัชกาลที่ 1-4 ตามลำดับ และภายในพระอุโบสถวัดโพธิ์เป็นที่ประดิษฐานของ"พระพุทธเทวปฎิมากร" ซึ่งมีความงดงามสมกับชื่อที่มีความหมายว่า "พระพุทธรูปที่เทวดาเป็นผู้สร้าง" เมื่อเดินภายในบริเวณวัดโดยรอบแล้ว สามารถเดินออกทางประตูหลังของวัดเพื่อไปนั่งพักผ่อนและชื่นชมทัศนีย์ภาพริมแม่น้ำที่ท่าเตียน และหากสนใจเดินทางต่อไปยังวัดอรุณ บริเวณนั้นก็มีเรือข้ามฟากไว้คอยบริการอย่างสะดวกสบายอีกด้วย
วัดอรุณราชวราราม
ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตรงข้ามกับวัดโพธิ์ หลายๆคนอาจคุ้นตากับพระปรางค์วัดอรุณที่ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าเมื่อมองจากฝั่งพระนคร แต่ภายในบริเวณวัดนั้นก็ยังมีสิ่งอื่นๆที่งดงามไม่แพ้กัน เช่นประตูซุ้มยอดมงกุฎ ซึ่งเป็นซุ้มประตูที่ที่ตั้งอยู่บริเวณทางเดินเข้าไปยังพระอุโบสถ โดยมียักษ์สองตนยืนอยู่ด้านหน้า และก่อนที่จะเดินเข้าไปยังพระปรางค์ จะมีโบสถ์น้อย และวิหารน้อยตั้งอยู่หน้าทางเข้า
ภายในวิหารน้อยนั้นมีรูปปั้นของพระเจ้าตากสินมหาราช และบรรจุข้าวของเครื่องใช้ในสมัยโบราณเอาไว้ ส่วนภายในโบสถ์น้อยใช้เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปขนาดเล็ก ซึ่งโบราณสถานทั้งสองหลังนี้ถูกสร้างขึ้นมาพร้อมกับพระปรางค์ตั้งแต่อดีต และหากเดินภายในบริเวณวัดจนครบแล้ว ยังสามารถหามุมนั่งพักผ่อนสบายๆที่ศาลาท่าน้ำ เพื่อชมทัศนีย์ภาพของฝั่งพระนครได้อีกด้วย
วัดราชนัดดาราม
ตั้งอยู่สุดถนนราชดำเนินกลาง เชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ เมื่อมองผ่านลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์เข้าไป จะมองเห็นโลหะปราสาทตั้งเป็นสง่าดึงดูดสายตาผู้ที่ผ่านไปมาแทบทุกคน โลหะปราสาทแห่งนี้ถือเป็นจุดเด่นของวัดราชนัดดา และถือเป็นโลหะปราสาทองค์แรกและองค์เดียวของประเทศไทยอีกด้วย โดยมีรูปแบบการสร้างเพื่อสื่อความหมายถึงพระโพธิปักขิยธรรม 37 คือมี 3 ชั้น และมียอดเจดีย์ 37 ยอด
ภายในยังเปิดให้คนทั่วไปได้เข้าไปชื่นชมความงดงาม และสามารถขึ้นไปชมทัศนียภาพบริเวณรอบเมืองในมุมสูงได้อีกด้วย ส่วนในบริเวณรอบพระอุโบสถนั้นแม้จะไม่ได้ตกแต่งประดับประดาอย่างวิจิตรตระการตาเหมือนวัดหลวงแห่งอื่นๆ แต่ก็ใช้พื้นและผนังสีขาวที่ให้ความรู้สึกสงบและสะอาดตา และเมื่อมองไปยังด้านทิศตะวันออก ก็จะมองเห็นภูเขาทองสูงเด่นเป็นสง่าซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลกันนัก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น